ชีวิตส่วนตัว ของ แอล. เอส. โลว์รี

ในปีต่อๆ มา เขาได้ใช้เวลาวันหยุดที่ Seaburn Hotel ที่ Sunderland, County Durham ไปกับการวาดภาพทิวทัศน์ของทะเล อ่าวบริเวณใกล้เคียง และเหมืองแร่[17] เมื่อเขาไม่มีสมุดสเกตช์ภาพ โลวรี่จะวาดทิวทัศน์โดยใช้ดินสอหรือถ่านลงบนด้านหลังซองเอกสาร ผ้าเช็ดปากบนโต๊ะ หรือตั๋วฝากเสื้อคลุม และแสดงให้เหล่าคนหนุ่มสาวที่นั่งอยู่กับครอบครัวดู สิ่งของเหล่านั้นปัจจุบันมีมูลค่าเป็นพันปอนด์ ผ้าเช็ดปากผืนนั้นสามารถหาดูได้ที่โรงแรม Sunderland Marriott Hotel (ซึ่งก่อนหน้าคือ Seaburn Hotel)[ต้องการอ้างอิง]

โลวรี่ค่อนข้างเป็นคนลึกลับ เป็นคนที่สนุกกับเรื่องราวโดยไม่คำนึงว่ามันเป็นความจริงหรือไม่[18] เพื่อนๆของเขาสังเกตว่า เรื่องราวของเขามีความโดดเด่นด้านอารมณ์ขันเกินกว่าที่จะเป็นความจริง และในหลายๆ ครั้งเขาเจตนาสร้างเรื่องโกหกโดยไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ เรื่องราวของเขาเกี่ยวกับ "Ann" ไม่สอดคล้องกับความจริงและเขาสร้างตัวละครอื่นขึ้นมาเพื่อที่จะเล่านิทานของเขาต่อไป นาฬิกาหลายๆ เรือนในห้องนอนของเขานั้นถูกตั้งไว้ให้เป็นเวลาที่แตกต่างกัน เขาบอกกับบางคนว่าเหตุผลคือเขาไม่อยากรับรู้เวลาที่แท้จริง แต่กับบางคน เขาอ้างว่าเขาตั้งมันแบบนั้นเพื่อจะได้ไม่ได้ยินเสียงจากนาฬิกาที่ดังพร้อมๆ กัน[ต้องการอ้างอิง]

โลวรี่มีมิตรภาพที่ยาวนาน รวมทั้งมิตรภาพกับศิลปินที่มาจาก Salford ชื่อ Harold Riley และเขาสร้างมิตรภาพใหม่ๆ อยู่ตลอดในวัยหนุ่ม เขาได้ซื้อผลงานจากศิลปินหนุ่มที่เขาชื่นชม เช่น James Lawrence Isherwood ซึ่งเป็นเจ้าของงาน ผู้หญิงกับแมวดำ (Woman with Black Cat) และได้แขวนไว้บนผนังห้องทำงานของเขา[19] เขายังคงไว้ซึ่งมิตรภาพอย่างต่อเนื่องกับศิลปินบางคนในกลุ่มนี้ โลวรี่เป็นเพื่อนสนิทกับศิลปิน Cumbrian อายุ 23 ปี ชื่อ Sheila Fell ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1955 เขาอธิบายไว้ว่า "เธอเป็นศิลปินที่วาดภาพภูมิทัศน์ได้ดีที่สุดของช่วงกลางศตวรรษที่ 20"[20] เขาสนับสนุนอาชีพของเธอโดยการซื้อผลงานหลายชิ้น และยกให้พิพิธภัณฑ์ หลังจากนั้นศิลปินสาวได้อธิบายถึงตัวเขาว่า “เขาเป็นนักมนุษยนิยมที่ดี การจะเป็นนักมนุษยนิยมนั้น ต้องรักในตัวของมนุษย์ และการจะเป็นนักมนุษยนิยมที่ดีนั้น ต้องแยกจากห่างออกจากมนุษย์เสียบ้าง” และเพราะเขาไม่ได้แต่งงาน เธอจึงเป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขามาก แม้ว่าเขาจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงหลายคนก็ตาม อย่างไรก็ดี เมื่อเขาอายุ 88 เขาได้ประกาศว่าตัวเขาไม่เคยมีผู้หญิงเลย[21]

เพราะเขามีชื่อเสียงในช่วงปลาย 1950s เขาจึงเบื่อหน่ายที่จะถูกเข้าหาโดยคนแปลกหน้า และจะยิ่งไม่ชอบหากคนแปลกหน้าเหล่านั้นบุกมาถึงบ้าน อย่างไรก็ตามเขาสุภาพต่อเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงของ Mottram ที่เคารพในตัวเขาและความเป็นส่วนตัวของเขา เขาใช้รถสาธารณะเพื่อเดินทางในพื้นที่หลังจากการเกษียณ อนุสาวรีย์ของเขาที่สร้างจากเงินตั้งอยู่บริเวณเสาไฟจราจรในหมู่บ้าน

เนื่องจากความพยายามที่จะสร้างภาพว่าเขาเป็น “ผู้ชายง่ายๆ” และด้วยความผิดพลาด เขาไม่ได้ชอบศิลปะคลาสสิคยุคหลัง โลวรี่จึงเป็นที่รู้จักในกระแสหลักของศิลปะในศตวรรษที่ 20 ในการให้สัมภาษณ์กับ Mervyn Levy เขาแสดงความต้องการที่จะทำงานให้ René Magritte และ Lucian Freud แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าเขาไม่เข้าใจงานของ Francis Bacon ก็ตาม ถึงแม้ว่าโลวรี่จะดูโดดเดี่ยวและรักชีวิตส่วนตัว เขาก็มีความสุขกับการร่วมชมการแข่งขันฟุตบอล และเป็นผู้สนับสนุนที่กระตือรือร้นของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี (supporter)[22][23]

แหล่งที่มา

WikiPedia: แอล. เอส. โลว์รี http://www.bbc.com/news/magazine-30248214 http://www.britainunlimited.com/Biogs/Lowry.htm http://www.lowryprints.com/ls-lowry-biography http://www.thelowry.com/ls-lowry/his-life-and-work http://christchurchartgallery.org.nz/collection/br... http://www.manchestergalleries.org/whats-on/perman... http://www.bbc.co.uk/arts/yourpaintings/galleries/... http://www.bbc.co.uk/news/uk-16736495 http://www.citylife.co.uk/arts/news/12433_dream_ex... http://www.dailymail.co.uk/news/article-1352093/Lo...